Home / 482 visa / แชร์ประสบการณ์วีซ่า 482 Work experience & De facto partner
single

แชร์ประสบการณ์วีซ่า 482 Work experience & De facto partner

 

วันนี้คนเขียนมาแชร์ประสบการณ์เคสวีซ่า 482 ที่น้องลูกความกังวลเรื่องประสบการณ์ และเรื่องการพ่วงแฟนในใบสมัครเดียวกัน

เคสนี้ น้องนัดปรึกษากับคนเขียนมา 2 รอบในเรื่องของตัวเอง และ 1 รอบในเรื่องของแฟน ก่อนที่จะตัดสินใจลุยงานกัน

น้องมีนายจ้างที่ต้องการสปอนเซอร์ แต่น้องมีประสบการณ์ไม่ถึง 2 ปีตามนโยบายของอิมมิเกรชั่น และน้องไม่มีวุฒิการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับสายงาน

ดูเผินๆเหมือนไม่น่าจะทำได้ น้องไปหาคำปรึกษาจากหลายที่ ได้รับคำแนะนำว่าประสบการณ์ยังไม่ถึงบ้าง ทำไม่ได้บ้าง

 

มาถึงคนเขียน น้องได้รับคำแนะนำให้

1. สะสมประสบการณ์เพิ่ม คือรอไปก่อน หรือ
2. ใช้ประสบการณ์ที่มีเทียบวุฒิการศึกษา ซึ่งน่าจะช่วยให้น้องยื่น 482 ได้เร็วขึ้น

น้องเลือกที่จะเทียบวุฒิการศึกษา และยื่น 482 เลย ก่อนวีซ่าตัวปัจจุบันจะหมด

 

คนเขียนถือว่าเป็นเคสมีความเสี่ยง (แต่คนเขียนไม่กังวลเท่าไหร่ เพราะทำเคสประสบการณ์ไม่ตรง ประสบการณ์ไม่ถึงตามนโยบายของอิมมิเกรชั่นมาก็หลายเคส แต่ทำเคสคนอื่นผ่าน ไม่ได้แปลว่าเคสน้องจะต้องผ่านด้วย โดยสรุปคือจากประสบการณ์และเนื้อหาเคสน้อง คนเขียนว่าน่าจะรอด แต่จะมาให้ความหวัง 100% คงไม่ได้ 1. ไม่ใช่คนตัดสินเคส และ 2. เราไม่หลอกกัน เสี่ยงก็คือเสี่ยง ถ้าอยากจะยื่นเร็วต้องยอมรับสภาพ ถ้าไม่อย่างเสี่ยงก็ทำงานเก็บประสบการณ์ต่อไป)

 

ปัญหาที่คนเขียนกังวลมากกว่าเรื่องประสบการณ์ของน้อง คือการพ่วงแฟนน้อง น้องเป็นคู่เหมือน ไม่ได้แต่งงาน ไม่ได้จดทะเบียนความสัมพันธ์ (และไม่ใช่ทุกรัฐที่รับจดทะเบียนความสัมพันธ์) แฟนน้องเคยอยู่ออสเตรเลียด้วยกัน แต่ตอนนี้ติดอยู่นอกออสเตรเลีย แยกกันอยู่มาเกือบปี พยายามจะกลับเข้ามา แต่มาไม่ได้ ถูกปฏิเสธวีซ่ามาแล้ว 2 รอบ เอกสารหลักฐานความสัมพันธ์มีไม่เยอะ ไม่มี Joint อะไรซักอย่าง ไม่ว่าจะ Joint lease, Joint bank account หรือ Joint bill  เรื่องของเรื่องคือต้องคิดว่าจะทำยังไงให้อิมมิเกรชั่นเชื่อว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันฉันท์ De facto จริง ไม่ใช่แค่เพื่อนกัน

 

อิมมิเกรชั่นขอเอกสารเพิ่มในเรื่องของความสัมพันธ์ (น้องยังมีถามอีกว่าไม่ขออะไรเพิ่มเรื่องประสบการณ์หรือคะพี่ คือยังกังวลไม่เลิก แต่ไม่มีค่ะ อิมมิเกรชั่น Happy กับเอกสารและการสรุปประเด็นกฏหมายที่คนเขียนทำขึ้นมาเพื่อช่วยน้อง)

 

เอกสารความสัมพันธ์เพิ่มเติม เป็นอะไรที่ต้องคิดเยอะมาก เพราะจริงๆคือเอกสารที่เป็นชิ้นเป็นอันยื่นไปหมดแล้ว ต้องเป็นการทำคำอธิบายแล้ว ณ จุดนี้ …. แต่ทั้งน้องและแฟนเขียนได้ …. ไม่โอเคเลย ….. คือ … ให้รายละเอียดความสัมพันธ์ไม่พอนะคะ ต้องให้แบบตอบโจทย์ด้วย (การตอบโจทย์ในที่นี้ คือ จะให้รายละเอียดความสัมพันธ์ยังไง ให้อิมมิเกรชั่นสามารถเอาข้อกฏหมายมาปรับเทียบได้ง่ายๆ ว่าควรจะเชื่อดีไหมว่าสองคนนี้มี De facto relationship ต่อกันจริง)

 

หลายคนคิดว่าการทำงานของทนายความ เอเจนต์ ไม่เห็นมีอะไร แค่ส่งต่อเอกสารให้อิมมิเกรชั่น …. คนที่ทำแบบนั้นคงมีจริง แต่คนเขียนบอกเลยว่าทนายความและเอเจนต์ที่ทำงานจริงๆ เนื้องานไม่ใช่การส่งต่อเอกสารเลยค่ะ เนื้องานคือการพิจารณาเอกสารและข้อมูลที่ลูกความให้มา จากนั้นก็คิดว่าจะทำยังไงให้เอกสารและเนื้อหาของเคสเข้าข้อกฏหมายมากที่สุด เพิ่มโอกาสให้ลูกความได้วีซ่ามากที่สุด

 

เคสนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงที่อิมมิเกรชั่นขอเอกสารเพิ่ม ใช้เวลา 5 อาทิตย์ สรุปว่าประสบการณ์ของน้องโอเค และอิมมิเกรชั่นเชื่อในความสัมพันธ์ของน้องและแฟน ในที่สุดสองคนนี้ก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันตามเดิม ~The End~

 

ป.ล. ไม่รับปากว่าเคสจะต้องผ่าน ไม่ได้แปลว่าจะไม่ทำเต็มที่นะคะ

 

Blog writer: Kanokwan Subhodyana
Immigration Lawyer

Blog: https://visablog.weebly.com